เมนู

สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ปิ่นประชากร จึงตรัสถามพระนาคเสนอีกว่า ภนฺเต นาคเสน
ข้าแต่พระนาคเสนผู้ปรีชา ยํ ภควา อาห สมเด็จพระพุทธองค์ผู้ทรงสวัสดิภาคพิชิตมาร
โปรดประทานคำอันใด ที่ว่าให้พระสงฆ์เพิกถอนขุททานุขุททกสิกขาบท อยํ โลโก คนที่
เกิดมาในโลกนี้ เป็นคนมืดมนอนธการหลงใหลไม่รู้จริง วิมติ ชาโต มีแต่จะสงสัยตะบึงไป
ดุจคนตามืดหาผู้จูงมิได้ ขุททานุขุททกสิกขาบทนั้น ได้แก่อันใดแน่ นิมนต์พระผู้เป็นเจ้าวิสัชนา
ให้ทราบในกาลบัดนี้
พระนาคเสนผู้เลิศด้วยศีลสมาจาร จึงถวายพระพรว่า มหาราช ดูกรบพิตรพระราช-
สมภาร ผู้ขัตติยมหาศาลเรือนพระเกียรติยศ คำว่าขุททานุขุทกสิกขาบทนั้น บพิตรจงมนสิการ
กำหนดในพระทัยว่า ขุททาสิกขาบทและอนุขุททกสิขานั้น อันว่าอาบัติทุกฏชื่อว่าขุททก
สิกขาบท อาบัติทุพภาสิตชื่อว่าอนุขุททกสิกขาบท รวมสิกขาบททั้งสองประเภทนี้เข้า เรียกว่า
ขุททานุขุททกสิกขาบท พระมหาเถระทั้งหลายในปางก่อนก็เกิดความสงสัยในปัญหาข้อนี้
ท่านจึงรวมสิกขาบททั้งสองนั้นเข้าเป็นส่วนหนึ่ง เพราะพระบรมครูของเราได้ทรงแสดงไว้
โดยบรรยาย ขอถวายพระพร
ราชา สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ปิ่นประชากรก็สรรเสริญพระนาคเสนว่า ภนฺเต ข้าแต่
พระผู้เป็นเจ้า พระผู้เป็นเจ้าแก้ปัญหากระทำรสพระพุทธฎีกาให้มั่นคงไว้ฉะนี้ จะเป็นที่ปรากฏ
จำเริญแก่พระชิโนรสไปในโลกช้านาน นับแต่วันนี้เป็นต้นไปในกาลบัดนี้
ขุททานุขุททกปัญหา คำรบ 1 จบเพียงนี้

ฐปนียพยากรณปัญหา ที่ 2


ราชา

สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ภูมินทราธิบดี มีพระราชโองการตรัสถามว่า ภนฺเต
นาคเสน
ข้าแต่พระนาคเสนผู้ประกอบด้วยปรีชา ภาสิตํ เจตํ ภควจา สมเด็จพระชิเนน-
ทราธิบดีมีพระพุทธฎีกาตรัสไว้ว่า ตถาคตนี้จะปิดบังความเป็นอาจารย์สั่งสอนธรรมหามิได้ คือ
พระองค์ตรัสว่า พระองค์เป็นอาจารย์บอกธรรม ครั้นนานมาเล่า พระเถรเจ้าผู้เป็นบุตรแห่ง
นางพราหมณีชื่อว่ามาลังฆา ทูลถามอรรถปัญหา พระองค์เจ้าก็มิได้ทรงวิสัชนา ภนฺเต นาคเสน
ข้าแต่พระนาคเสนผู้เป็นเจ้า อันประกอบไปด้วยปรีชา เอโส ปญฺโห อันว่าปัญหานี้อาศัยอรรถ
เป็นแท้ แต่ส่วนทั้งสอง คือมีสองแง่ไม่แปรผัน อชานนฺเตน วา เป็นเพราะพระตถาคตเจ้า